The Intouchables
อ่านหนังสือให้ฟังเหรอ ? เข็นรถชมวิวชิลๆช้าๆเหรอ ?
ทานแต่อาหารครบหลัก5 หมู่ ? ดูภาพศิลปะ ? นอนแต่หัวค่ำงั้นเหรอ ?……
The Intouchables ในภาษาฝรั่งเศสนั้นมีความหมายว่า Untouchable ถูกนำมาเป็นชื่อของหนังฝรั่งเศสที่ ” touchable” หัวใจคนดูทั่วยุโรป หนังพล็อตเรื่องธรรมดา แต่ถ่ายทอดความอ่อนโยนในจิตใจมนุษย์ออกมาอย่างละเมียดละไม จุดเด่นของ The Intouchables คือการมุ่งประเด็นไปที่การส่งต่อรอยยิ้มและการเติมเต็มส่วนที่ขาดให้แก่กัน ชีวิตเราเมื่อล้มแล้ว คงไม่ใช่ทุกครั้งที่เราจะสามารถลุกขึ้นได้รวดเร็วอย่างที่คนรอบข้างคาดหวัง บางครั้งเราต้องการเวลาและใครสักคน ช่วยโยกย้ายความทุกข์ออกไปให้ห่างจากตัวเรา
Philippe (François Cluzet) ขุนนางเก่าแก่ ฐานะร่ำรวยเหลือประมาณ ชายผู้โชคร้ายเป็นอัมพาตตั้งแต่คอลงมาถึงเท้าและสูญเสียภรรยาจากอุบัติเหตุ ชีวิตที่กระดุกกระดิกตัวไม่ได้ มองไปทางไหนก็มีแต่แม่บ้าน กับนางพยาบาลที่รายล้อมรอบตัว ทุกคนสาละวนอยู่แต่กับการปรนนนิบัติเขาตามค่าแรง แม้จะมีลูกสาว แต่ก็ไม่เคยสนใจใยดีผู้เป็นพ่อ วันๆเอาแต่หมกมุ่นแต่เรื่องของตัวเองตามประสาวัยรุ่น ไม่ว่าผู้กำกับจะตั้งใจหรือไม่ แต่ทั้งหมดนี่ เสียดสีสังคมฝรั่งเศสที่ชอบใส่ใจหัวนอนปลายเท้าของคนไปแล้ว
ภายใต้การดูแลแบบมืออาชีพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ทุกๆวันนอกจากอาบน้ำ แต่งตัว มีคนป้อนข้าวแล้ว ก็ลงเอยกับการดื่มด่ำมองภาพศิลปะด้วยความห่อเหี่ยว
เมื่อต้องสัมภาษณ์หาผู้ดูแลส่วนตัวคนใหม่จากผู้สมัครนับสิบราย สุดท้ายก็มาลงเอยที่ Driss (Omar Sy)หนุ่มผิวดำร่างยักษ์จากสลัม บุคลิกกักขฬะ มุทะลุ แต่มีอารมณ์ขัน เพิ่งออกจากคุกด้วยข้อหาขโมยเพชร ต้องมาดูแลผู้ป่วยที่แสนทุลักทุเล ความรู้พื้นฐานด้านการดูแลคนป่วย…ไม่มีเลยสักนิด แต่ Driss กลับกลายเป็นคนเดียวที่เข้าถึงก้นบึ้งจิตใจคนพิการและสามารถเติมเต็ม ” ชีวิต” ให้คนป่วยอัมพาตอย่าง Philippe ได้ดีมากกว่าคำปลอบใจแบบลูกกวาดใส่สี
พูดถึงนักแสดงThe Intouchables ที่นำแสดงโดย Omar Sy ที่ก้าวเข้ามารับบท Driss ผู้ดูแล ต้องบอกว่านอกจากจะเล่นไม่พร่องแล้ว เขายังเล่นให้ใหญ่ขึ้นอีก จนคนดูรู้สึกถึงอารมณ์ขันที่เผื่อแผ่กระจายออกมารอบตัวของเขา
การมีวินัยเป็นสิ่งที่ดีแหละ แต่บางครั้งมันก็เป็นการสร้างกรอบขีดเส้นให้กับชีวิตน่าเบื่อด้วยเช่นกัน จะดีแค่ไหนที่คุณภาพชีวิตดีๆของเราได้มีชีวิตชีวาด้วย Driss ทำลายระบบการดูแลที่ซ้ำซากจำเจในชีวิตประจำวันของPhillipe ทิ้งทั้งหมด ความมีอารมณ์ขันอันอื้อซ่า ช่วยสร้างสมดุลย์ระหว่างสุขกับทุกข์ได้อย่างดีเยี่ยม จะมีคนแปลกหน้าสักกี่คนบนโลก ที่ทำให้คุณมีความสุขในยามที่ทุกข์ที่สุด ” เหตุผลเดียวที่ผมเลือก Driss เพราะเขามักจะเผลอยื่นมือถือให้ผมเสมอ เขาชอบลืมว่าผมกระดุกกระดิกตัวไม่ได้ ในขณะที่เหล่าคนรอบข้างที่รักผม ชอบใช้คำว่า “สภาพของคุณ” เพื่ออธิบายสิ่งที่ผมเป็นอยู่ “
Driss ทำให้ Phillipe ลืมไปชั่วขณะ ว่าเขากำลังต่อสู้กับอะไรบ้าง ในขณะที่การได้ดูแลPhillipe ก็ทำให้ Driss ได้เรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตสุดโต่งเกินพอดี…ไม่มีประมาณ เป็น ดาบสองคม ไม่ว่าจะสนุกสุดเหวี่ยงแค่ไหน แต่อนาคตต้องมี
เรามีเวลาเหลืออยู่บนดาวเคราะห์นี้กี่ปี ก็ช่างมันเถอะ แอปเปิ้ลช้ำเพียงส่วนเดียว หากต้องโยนทิ้งทั้งลูก คงอดรับรู้รสชาติหวานกรอบของแอปเปิ้ลจริงไหม?….
ดูตัวอย่างหนังPattrawadee Tanaluk
Published : Aug 14, 2012
ภัทราวดี ทนาลักษณ์