Exit Through The Gift Shop
หนังสารคดี ที่ได้รับรางวัลออสการ์ไปเมื่อปี 2011 สารคดีที่รวบรวมผลงานของศิลปินพ่นสีข้างถนน ที่ชื่อ Banksy
กับผลงานสีสเปรย์บนกำแพงที่ใครต่อใครบอกว่าทำที่ไหนๆมันก็ผิดกฏหมาย เพราะมันถูกจัดอยู่ในหมวดความสกปรก
แต่ผลงานของ Banksy สร้างความเปลี่ยนแปลงชนิดที่เรียกว่า เป็นตำนานไปแล้วตอนนี้
Trailer หนัง Exit Through The Gift Shop
<
ศิลปินผลงาน “ที่หมาเยี่ยว” ในบ้านเรา ก็พลอยปลื้มใจไปกับเค้าด้วย….
ทำไมออสการ์ให้รางวัลหนัง Exit Through The Gift Shop ของ Banksy ? ทำไมคนดังอย่าง Brad Pitt, Angelina Jolie ,Keanu Reeves, Jude Law และเศรษฐีทั้งหลายแหล่ถึงประมูลภาพกันในราคาพุ่งเกิน 10 ล้าน ? ทำไมงานแสดงศิลปะของ Banksyที่ Bristol Museum ถึงมีคนทุกเพศทุกวัยไปยืนต่อคิวถึง 6 ชม เพื่อที่จะได้เข้าชม ?
…..เพราะผลงานของ Banksy มีนัยยะแฝงอย่างเฉียบคม เสียดสีสังคม แต่ละภาพนำเสนอความคิด นอกกรอบแบบสร้างสรรค์ ในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สงคราม ทุนนิยม จิตใจด้านมืดของมนุษย์ แต่สื่อออกมาในแนวตลก มีคุณค่าทางความคิดเกินกว่าที่จะพูดว่ามันสกปรก ไม่ใช่ว่าพ่นอะไรสิ้นคิดประเภท คนชื่อนั้นโรงเรียนนี้, รักคนนี้โรงเรียนนั้น ……. ดูอย่างภาพชู้รักห้อยต่องแต่งข้างหน้าต่างที่เค้าวาดไว้ที่กำแพงคลินิคนิรนามในเมืองBristolสิ พอมีข่าวว่ารัฐบาล Bristolไม่ชอบใจจะลบทิ้งเพราะดูไม่สะอาด ก็มีคนไปร้องเรียนให้เก็บรักษาเอาไว้สอนใจคนเดินผ่านไปมา จนทางการต้องเสนอให้ประชาชนร่วมโหวตออนไลน์กันว่าสมควรลบหรือไม่ ปรากฏว่า ผลโหวต 93 % ของประชาชนบอกว่า ไม่ให้ลบภาพออก ทุกวันนี้รัฐบาล Bristol นอกจากจะไม่จับคนวาดแล้ว ยังเต็มใจเสียเงินทำความสะอาดรอยเปื้อนจากพวกมือบอนขี้อิจฉาทุกปี ให้ภาพเป็นเหมือนเดิม เพราะแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศมาถ่ายรูปกับภาพของ Banksy ตามกำแพงทั่วเมือง โกยรายได้เข้าประเทศไปอีก
ถึงเราจะเป็นคนที่อยู่คนละโลกกับคำว่า”ศิลปะ” ก็ยังเป็นแฟนคลับผลงานของ Banksy มีคนเยอะแยะที่ไม่ได้ไปดูความงามของเชิงศิลปะ แต่ไปดูมุมมองตลกเสียดสีที่ทุกคนเห็นแล้วเข้าใจเลย ไม่ต้องตีความซับซ้อน ไม่ต้องใส่จิตวิญญาณลงไปในภาพใดๆทั้งสิ้น
ทันทีที่มีข่าวว่าหนัง Exit Through The Gift Shop ของ Banksyจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ ใครต่อใครก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูว่าศิลปินผู้ที่ไม่เคยเปิดเผยโฉมหน้าที่ไหนมาก่อนจะมาปรากฏตัวในงานหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ให้ตัวแทนมารับรางวัลแทน ก็แหงล่ะ ถ้ามารับรางวัลเอง ลงจากเวทีปุ๊บ คงโดนจับใส่กุญแจมือปั๊บ การสร้างผลงานบนกำแพงของชาวบ้าน จะยากลำบากกว่าถ้าคนจำหน้าได้ ปรกติการสร้างภาพแต่ละครั้ง ต้องใช้ความรวดเร็วอย่างมาก รีบทำ รีบหนี แต่ปัจจุบันคงไม่ต้องหนีมากเท่าไหร่ เพราะใครต่อใครก็เชื้อเชิญให้ BANKSY มาละเลงผลงานที่กำแพงบ้านตัวเอง เพราะนั่นหมายความว่า มูลค่าอสังหาริมทรัพย์นั้นจะสูงขึ้นในพริบตา Banksy ไม่ว่า ประมูลตามสบาย แต่ถ้าชนะแล้วก็หาวิธีเอาออกจากกำแพงเองแล้วกัน มีหลายๆภาพที่ผู้ชนะประมูลถึงขั้นขอซื้อบ้านทั้งหลังไปเลย Brad Pitt กับ Jolie หลงใหลผลงานของ Banksyมาก เคยโทรศัพท์ไปประมูลด้วยราคา 1 ล้านปอนด์ แต่ทราบมาว่า Banksy บริจาคให้การกุศลนะ
ถ้ามองในเรื่องของการตลาด ศิลปินผู้นี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในด้านการสร้างมูลค่าในผลงานของตัวเอง ความมีอารมณ์ขันเป็นของคู่กันกับความคิดสร้างสรรค์แต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ขาดกันไม่ได้เลย เปลี่ยนจากภาพสกปรกในสายตาของคนในสังคม เป็นภาพที่ใครๆก็ให้ความสำคัญ จนพิพิธภัณฑ์ Bristol Museum เชิญให้ไปจัดแสดงผลงาน …อ่ะ ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว…แต่ขอเปลี่ยน theme ของงานนิดหน่อย จากงานแสดงภาพธรรมดา ขอเป็นการสู้กันระหว่าง Banksy กับ Bristol Museum
ภาพทั้งหมดที่เอามาแปะ จะคละๆกัน มัทั้งที่แสดงในพิพิธภัณฑ์และภาพจากกำแพงหลายๆประเทศที่เค้าไปฝากผลงานเอาไว้
<
คนพากันแห่ไปต่อคิวกว่า 6 ชั่วโมง ถึงจะได้เข้าไปดู นี่..ปิดถนนกันเลยทีเดียว
******รูปนี้ เห็นแล้วจี๊ดดด เข้าไปในหัวเลย….
นึกถึงคำที่เห็นบ่อยบนกำแพงในเมืองไทย “พ่อทุกสถาบัน” …. นี่มันบังเอิญใช่มั้ยๆๆๆ 55+
ไม่รู้….. ดูไม่ออกว่าหมายถึงอะไร แต่รถไอศกรีมโคนละลายอันนี้ น่าจะเป็นไฮไลท์ของงาน
ทวีตตี้แก่ๆ… Banksy ใส่คำบรรยายภาพไว้ว่า
“ Please be aware, This animal may bite, and dislikes children.”
รูปปั้น Tamer Lion กินผู้ฝึก เค้าน่าจะเล่นคำรึเปล่า ? อันนี้เราเดามั่ว
ว่าเปรียบเทียบประมาณ ” Lion Tamer Or Tamer Lion – ถ้าหาคนเก่งไม่ได้ ก็ต้องหาคนที่เชื่องแทน”
ล้อเลียนหนังเรื่อง Pulp Fiction ของเควนติน สัญลักษณ์ของหนังเควนตินที่อุดมไปด้วยความรุนแรง
—–เปลี่ยนจากถือปืนเป็นถือกล้วย ความรุนแรงลดลงฮวบบบ
เด็กย่องไปข้างหลังทหารที่กำลังเล็งสไนเปอร์ หวังจะเอาถุงพลาสติกใส่ลม ไปตบใส่หูให้ตกใจ จะได้ยิงไม่โดนคน
รูปนี้ ช่างกล้า….. ความเคร่งครัดทางศาสนา หญิงอิหร่านในชุดฮิญาบมิดชิด วาดทับด้วยจีสตริงพร้อมสายรัด
ฟักชั้นออกมาเป็น Nugget เลยเถอะที่รัก !…จะได้ไม่เสียเวลา
วาดที่กำแพงปาเลสไตน์ ที่ถือว่าเป็นกำแพงแห่งความแบ่งแยก
สัญลักษณ์แห่งสันติภาพก็ยังหวั่นกระสุน
ใครเดินผ่านก็ต้องมองภาพ………..“Sweeping It Under The Carpet”
รังแกแต่คนไม่มีทางสู้ พอไม่มีปืนก็งั้นๆ
เด็กชักธงร้องเพลง สรรเสริญถุงพลาสติกของห้างค้าปลีก TESCO
มีภาพมาช่วยกลบเกลื่อนแล้ว ลืมรอยเลือดเลยใช่มั้ยล่ะ?
วรรคทองของ Picasso ที่จารึกไว้ในพิพิธภัณฑ์——-ขีดฆ่า ——-ใส่ชื่อตัวเองแทน
>
<
Pattrawadee Tanaluk
